“กรดไหลย้อน” รักษาได้ ถ้ารู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อนมาบ้างแล้ว บางคนอาจจะสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคกรดไหลย้อนรึเปล่า? อาการแบบไหนที่เรียกว่ากรดไหลย้อน แล้วกรดไหลย้อนรักษาหายได้หรือไม่? ต้องกินยาไปนานแค่ไหนถึงจะหาย? บทความนี้มีคำตอบ
อาการแบบไหนใช่ “กรดไหลย้อน”??
- อาการที่พบได้บ่อย มีดังนี้
- แสบร้อนบริเวณกลางอกและลิ้นปี่
- เรอเปรี้ยว หรือขมในปาก
- จุกแน่นในลำคอ
อาการที่พบได้ เช่น
- มีเสมหะในลำคอ ระคายคอตลอดเวลา กระแอมบ่อย
- ไอเรื้อรัง ไอหลังอาหาร หรือไอตอนนอน
- เสียงแหบเรื้อรัง เสียงเปลี่ยน
- ฟันผุ มีกลิ่นปาก แสบปาก แสบลิ้น
- โรคหืดหอบที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา
“กรดไหลย้อน”รักษาหายได้ด้วยการทานยาลดกรดในกระเพาะอาหารอย่างต่อเนื่อง 4-8 สัปดาห์ ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันกรดไหลย้อน
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
- หากมีน้ำหนักตัวเกิน ให้ลดน้ำหนัก
- ไม่ควรเอนตัวนอนหลังรับประทานอาหารทันที ควรเว้นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการทานอิ่มมากเกินไปในแต่ละมื้อ
- หลีกเลี่ยงอาหารมัน ได้แก่ อาหารทอด/ผัด หมูติดมัน หนังไก่ เบเกอรี่
- งดบุหรี่ เหล้า เบียร์ กาแฟ
- หลังการรักษา สามารถกลับมามีอาการได้อีกหรือไม่??
หลังทานยาลดกรดในกระเพาะอาหารต่อเนื่อง 4-8 สัปดาห์ ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งมักจะกลับเป็นซ้ำใน 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่พฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต ซึ่งสามารถให้การรักษาด้วยการทานยากลุ่มเดิมได้
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่องเป็นการรักษาที่ยั่งยืน และช่วยลดการกลับเป็นซ้ำจากโรคกรดไหลย้อนได้
ด้วยความปรารถนาดีจาก
คลินิกหมอธนา-หมอขวัญ
โทร : 085-700-5132